LINE มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ส่งเสริมสตาร์ทอัพ จัด LINE ScaleUp Demo Day โชว์ผลงาน 6 สตาร์ทอัพเสริมธุรกิจด้วยแพลตฟอร์ม LINE รับโอกาสขึ้นแท่นเป็นพันธมิตร เพิ่มศักยภาพเดินหน้าสู่ยูนิคอร์น

2019.12.03 Other Services

โครงการ LINE ScaleUp 2019 โดย LINE ประเทศไทย จัดกิจกรรม Demo Day ต่อยอดความสำเร็จให้ 6 สตาร์ทอัพที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้นำเสนอผลงานต่อหน้านักลงทุนในประเทศ ต่างประเทศ รวมถึง LINE Ventures โชว์ศักยภาพการนำโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของ LINE มาต่อยอดธุรกิจเพื่อผลักดันสู่สตาร์ทอัพชั้นนำและเป็นยูนิคอร์นสัญชาติไทยตัวแรก โดยทั้ง 6 สตาร์ทอัพจะได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ LINE เดินหน้าพัฒนาความร่วมมือเชิงพาณิชย์ต่อไป เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสู่การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล  

 

 

เจเดน คัง รองประธานกรรมการฝ่ายกลยุทธ์ LINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า “LINE ScaleUp เกิดขึ้นด้วยเป้าหมายสําคัญที่ต้องการส่งเสริมและผลักดันให้สตาร์ทอัพไทยสามารถพัฒนาและเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ มีโอกาสบรรลุเป้าหมายของการเป็นยูนิคอร์นได้สำเร็จ พร้อมเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลในไทย โดยกิจกรรม Demo Day ถือเป็นวันสำคัญที่จะเปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพทั้ง ทีม ได้แก่ Choco CRM, Claimdi, FINNOMENA, Gowabi, Seekster และ Tellscore ได้นำเสนอผลงานและศักยภาพของตนอย่างเต็มที่ หลังจากได้ผ่านการพัฒนาโดยหลักสูตรโค้ชเชิงเข้มข้นจาก LINE ScaleUp camp มาอย่างต่อเนื่อง เดือนเต็ม ทั้งในรูปแบบการอบรม เวิร์คชอป และดูงานสตาร์ทอัพยูนิคอร์นในประเทศเกาหลีใต้ซึ่งครอบคลุมความรู้ ทั้งเรื่องของการดำเนินธุรกิจ การใช้เทคโนโลยีขั้นสูงภายใต้แพลตฟอร์ม LINE และการบริหารงานภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ได้มุ่งเน้นการนำเอาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่ LINE สร้างขึ้นมาเติมเต็มศักยภาพ จนถึงวันนี้ ทั้ง ทีมได้เติบโตขึ้นและมีศักยภาพมากขึ้น ซึ่งทำให้ LINE สามารถพัฒนาความร่วมมือกับสตาร์ทอัพทั้งหกได้อย่างมั่นใจ

 

 

ทั้งนี้ การพัฒนาความร่วมมือกับทั้ง ทีม แบ่งความร่วมมือออกเป็น ส่วน ได้แก่ ความร่วมมือด้านธุรกิจ (Business Solution) โดยเปิดช่องทางมินิแอป (Mini App) บน LINE ให้กับ Seekster และ Finnomena ให้ผู้ใช้ LINE สามารถเข้าถึงและเข้าใช้บริการของทั้ง สตาร์ทอัพอย่างเต็มรูปแบบได้ทันที ครบจบในที่เดียวผ่านช่องทางใหม่ในแอปฯ แชท LINE ความร่วมมือด้านพันธมิตรอย่างเป็นทางการกับแพลตฟอร์มชั้นนำของ LINE (Strategic Partnership) โดยเปิดให้ผู้ใช้งาน LINE สามารถเข้าถึงบริการของ Seekster ได้ผ่านแพลตฟอร์ม LINE MAN ในเร็วๆ นี้ รวมไปถึง Finnomena และ Claimdi ที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการกับ แพลตฟอร์มด้านคอนเทนต์ชั้นนำในประเทศไทยอย่าง LINE Today และ LINE TV ในการส่งคอนเทนต์เพื่อเผยแพร่ สร้างความรู้ ความเข้าใจในข้อมูลที่เป็นประโยชน์และส่งเสริมการใช้งานของทั้ง บริการได้อย่างยั่งยืน ความร่วมมือแบบบูรณาการเชิงลึก (Deep Integration) ให้กับทั้ง ทีม โดยเฉพาะ Choco CRM, Tellscore และ GOWABI ที่สามารถต่อยอดการพัฒนาบริการในเชิงลึกผ่าน LINE API ได้เป็นอย่างดี ให้ผู้ใช้ได้เข้าใช้งานบริการผ่าน LINE ได้อย่างโดดเด่นและครบวงจร โดยความร่วมมือทั้งหมดนี้ ถือเป็นโอกาสที่ LINE เปิดกว้างให้กับสตาร์ทอัพทั้ง ทีม เพื่อผลักดันให้ทุกทีมเป็นที่รู้จักมากขึ้น สามารถดำเนินธุรกิจให้เติบโตและขยาย Scale ยกระดับไปสู่ลูกค้าในวงกว้าง 

งาน Demo Day ภายใต้โครงการ LINE ScaleUp ไม่ได้ถือเป็นวันประกาศความสำเร็จ แต่ถือเป็นวันประกาศศักยภาพของทั้ง ทีม ที่พร้อมจะเติบโตต่อไปด้วยศักยภาพ ความสามารถและจุดแข็งที่มี ด้วยการสนับสนุนจาก LINE ที่ไม่ใช่เพียงเม็ดเงินลงทุน แต่ยังเปี่ยมไปด้วยองค์ความรู้ เครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ ภายใต้แพลตฟอร์ม LINE ที่พร้อมจะช่วยให้สตาร์ทอัพทั้ง ทีมนำธุรกิจของตนให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ LINE มีฐานสมาชิกผู้ใช้งานอยู่กว่า 44 ล้านรายในประเทศไทย และต่อยอดไปสู่ระดับภูมิภาคและระดับโลกได้

รายนามผู้บริหารรูปซ้าย:
[ซ้าย] เจเดน คัง รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ LINE ประเทศไทย และ
[ขวา] ดร. พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทย

 

เจเดน คัง กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ของสตาร์ทอัพไทย ว่า เศรษฐกิจดิจิทัลในไทย (Thai digital economy) มีสัดส่วนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) เพียงประมาณ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น สตาร์ทอัพไทยซึ่งส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจดิจิทัลถือว่ายังอยู่ในระยะเริ่มต้น และนับว่ายังล้าหลังอยู่ทั้งในด้านจำนวนและด้านการลงทุน รวมไปถึงด้านการเติบโตเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชีย เช่น อินโดนีเซีย เวียดนาม สาเหตุหลักที่เราเล็งเห็นคือ 1) ข้อจำกัดด้านบุคลากร (Talent) ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญมาก โดยเฉพาะบุคลากรด้านเทคโนโลยีซึ่งไทยยังมีจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใกล้เคียงกัน และ 2) แรงขับเคลื่อนด้านเงินทุน (Funding) สำหรับสตาร์ทอัพที่สามารถมาช่วยเป็นแรงผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล งาน Demo Day ในวันนี้จึงถือเป็นโอกาสสำคัญครั้งใหญ่ที่ ทีมสตาร์ทอัพที่เรามองเห็นถึงโอกาสการเติบโตสู่ยูนิคอร์น ได้แสดงศักยภาพสู่สายตานักลงทุนระดับสากลอย่างแท้จริง โดยโปรเจค LINE ScaleUp ในปีหน้า เราจะยังคงมุ่งผลักดันสองส่วนนี้เป็นหลักสำคัญ เพื่อสร้างรากฐานให้สตาร์ทอัพไทยมีประสิทธิภาพและแข็งแกร่งกว่าเดิม ด้วยการนำเทคโนโลยีและเครือข่ายทางธุรกิจที่เรามี มาช่วยยกระดับในการพัฒนาธุรกิจของสตาร์ทอัพและธุรกิจของประเทศ โดยเราเชื่อว่าสตาร์ทอัพไทยมีศักยภาพเพียงพอที่จะเพิ่มสัดส่วนเศรษฐกิจดิจิทัลต่อ GDP ประเทศไทย ให้เติบโตขึ้นเกิน เท่าภายในปี 2025 สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศในการนำเทคโนโลยี และนวัตกรรมมาช่วยพัฒนาให้ประเทศไทยเข้าสู่ยุค 4.0”  

ทั้งนี้ นอกเหนือจากพันธกิจสำคัญของ LINE ประเทศไทยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับประเทศ สร้างความแข็งแกร่งให้กับ Digital Startup ด้วยการสนับสนุนองค์ความรู้และเครื่องมือต่างๆ ให้กับสตาร์ทอัพไทยอย่างเต็มที่ ผ่านโครงการ LINE ScaleUp แล้ว LINE ยังพร้อมพัฒนาแพลตฟอร์มคุณภาพส่งบริการให้เข้าถึงคนไทยอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อความสุขและประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการใช้งานเทคโนโลยีในทางที่สร้างสรรค์ของคนไทย สำหรับผู้สนใจ สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมโครงการ LINE ScaleUp ได้ผ่านเว็บไซต์ https://scaleup.line.me

 

#LINEScaleUp2019 #LINEScaleUpDemoDay